บริษัทดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรโดยทันตแพทย์เฉพาะทางโดย มีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานและระบบความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็ นสำคัญภายใต้แบรนด์ "LDC" ปัจจุบันมีสาขาเปิดดำเนินการ 21 สาขา ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยมีเป้าหมายเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
สำหรับปี 2567 บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับอำนาจการควบคุมบริษัท ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ และ ครอบครัวชัยวัฒน์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เหตุการณ์สำคัญในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ปี 2567 บริษัทพิจารณาปิดดำเนินการคลินิกทันตกรรม รวม 7 สาขา ประกอบด้วยสาขาต่างจังหวัด 6 สาขา และ สาขาในกรุงเทพฯ 1 สาขา เนื่องจากผลประกอบการคลินิกทันตกรรม มีผลขาดทุนต่อเนื่อง และไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น โดยมีผล ประกอบการขาดทุนเป็นเวลานาน เพื่อให้เป็นผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในระยะยาว<br></p><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 1 </p><li style="text-align:left;">ปิดดำเนินการสาขามุกดาหาร และลำปาง เนื่องจากสิ้นสุดสัญญาเช่า </li><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 2 </p><li style="text-align:left;">ปิดการดำเนินการสาขาสะพานใหม่ ในเดือนมิถุนายน</li><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 3 </p><li style="text-align:left;">ปิดดำเนินการสาขาเชียงใหม่ ในเดือนกันยายน ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังมีรายได้จากการให้บุคคลภายนอกเช่าช่วงเพื่อเปิดดำเนิน การธุรกิจที่พัก และร้านสะดวกซื้อ </li><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 4 </p><li style="text-align:left;">บริษัทเปิดดำเนินการคลินิกทันตกรรมในภาคใต้อีก 1 สาขา คือสาขาตรัง กลางเดือนพฤศจิกายน </li><li style="text-align:left;">บริษัทได้พิจารณาปิดดำเนินการสาขานครราชสีมา สาขามหาสารคาม ในเดือนธันวาคม </li>
<p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 2 </p><li style="text-align:left;">บริษัททำสัญญาเช่าเพื่อขยายสาขาใน 2 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดตรัง และจังหวัดชุมพร ตามกลยุทธ์ขยายสาขาต่อสัญญา เช่าในสาขาศักยภาพ 2 สาขา คือสาขารังสิต และราชพฤกษ์ </li><li style="text-align:left;">ล้างขาดทุนสะสมตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ที่อนุมัติให้โอนทุนสำรอง ตามกฎหมายจำนวน 1.3 ล้านบาท และส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 248.55 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของ บริษัททำให้งบการเงินของบริษัทเริ่มมีกำไรสะสมตั้งแต่ไตรมาสนี้ </li><li style="text-align:left;">ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมูลค่ารวม 93 ล้านบาท โดยจ่ายชำระเงินเต็มจำนวนแล้วด้วยเงินของบริษัทฯจำนวน 53 ล้าน บาท และทำสัญญากู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่งจำนวน 40 ล้านบาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวบริษัทซื้อมาเพื่อแทนที่สาขาแจ้งวัฒนะเดิม </li><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 3</p><li style="text-align:left;">บริษัททำสัญญาก่อสร้างสาขาแจ้งวัฒนะ และสาขาตรัง รวมมูลค่าตามสัญญา จำนวน 23.26 ล้านบาท </li>
บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ LDC The Next Normal (ลดต้นทุน ยกระดับ) ซึ่งบริษัทมีแผนหยุดภาระขาดทุนเพื่อไม่ให้เป็น ภาระในระยะยาว โดยมีรายละเอียดดังนี้ <br><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 1 </p><li style="text-align:left;">มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่า 2 สาขา จากการที่บริษัทได้เจรจาขอลดค่าเช่า และผู้ให้เช่ายินดีลดค่าเช่าให้ ตามแผนงานลด ต้นทุน </li><p style="font-weight=600">ไตรมาสที่ 2 </p><li style="text-align:left;"> มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าเพิ่มขึ้นอีก 3 สาขา รวมกับไตรมาสที่ 1/2565 เป็น 5 สาขา โดยเนื้อหาการเปลี่ยนแปลง คือ การขอลดราคาค่าเช่าจากผู้ให้เช่า จึงมีผลทำให้เกิดรายการกำไรจากการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่า (รวมอยู่ในรายได้อื่นในงบ กำไรขาดทุน) ซึ่งเป็นรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในงวด </li><p>ไตรมาสที่ 4</p><li style="text-align:left;"> มีการปรับรูปลักษณ์สาขาให้ดูดีและทันสมัยมากขึ้น</li><li style="text-align:left;">ปิดให้บริการคลินิกความงามทั้ง 4 สาขา เป็นการชั่วคราว โดยเปิดดำเนินการจนถึง 30 ธันวาคม 2565 </li>